ประสบการณ์ โดยนางโซเรน ไบร์ (Solene Bail)
สาขา 12 ประเทศฝรั่งเศส
สวัสดีค่ะ ดิฉันนางโซเรน ไบร์ ภูมิลำเนาเกิดที่ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เมืองอันโด ประเทศฝรั่งเศส อายุ 39 ปี มีบุตร 2 คน อายุ 9 ปี และ 12 ปี มีอาชีพเป็นนักโภชนาการ ดิฉันเป็นสมาชิกเรยูไก มีคุณสมบัติเป็นผู้นำสายคารายอน สาขา 12
จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา(COVID-19) ระบาดทั่วโลก ที่ฝรั่งเศสเริ่มปิดประเทศ ปิดเมือง(Lock Down) ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 ทำให้กิจการทุกอย่างถูกสั่งปิด ซึ่งดิฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ทำงานถูกสั่งปิดบริการ โดยก่อนหน้านั้นฉันกำลังทำWork Shop เกี่ยวกับการทำอาหาร ดูแลสุขภาพให้แก่ลูกค้า ก็เป็นอันว่าต้องยุติลง ปัจจุบันดิฉันอยู่บ้านก็ได้ดูแลลูกๆเรื่องการเรียน รัฐบาลฝรั่งเศสก็ให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการเงินบ้าง สถานการณ์โควิทในฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อรุนแรงมาก มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 25,000 คน แต่เมืองที่ดิฉันอาศัยอยู่มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าที่อื่น และเพื่อไม่ให้โรคระบาดรุนแรงมากยิ่งขึ้นจึงรณรงค์ไม่ให้ประชาชนออกนอกบ้าน จากเหตุการณ์นี้ทำให้วิธีการปฏิบัติเรยูไกก็มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
ก่อนที่ประเทศฝรั่งเศสจะเริ่มประกาศปิดเมืองปิดประเทศ ดิฉันก็ได้รับฟังข้อความจากประธานเรยูไก(นายซุเอะโยะชิ มะซะฮะรุ) ท่านกล่าวว่าเพื่อไม่ให้โควิด-19 ระบาดต่อไป ให้โรคนี้หยุดอย่างเร็วไว ขอให้พวกเราสมาชิกพยายามช่วยกันเผยแผ่คำสอนเรยูไก ในตอนแรกที่ดิฉันได้ฟังฉันคิดว่าทำไม่ได้ คือฉันมีความรู้สึกคิดเองว่า สิ่งนี้ฉันทำได้ สิ่งนั้นฉันทำไม่ได้ โดยที่ยังไม่ได้ลองทำเลย นี่เป็นจุดด้อยของฉันเอง สุดท้ายดิฉันพิจารณาตัวเองโดยสวดมนต์อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงว่า ขอให้ฉันเกิดปัญญาจากโลกวิญญาณ ขอให้ฉันแนะนำสมาชิก(มิจิบิคิ) ได้สำเร็จ รุ่นพี่ของดิฉันแนะนำว่า ให้ฉันปฏิบัติตามบทสวดเพื่อจะได้พิจารณาตัวเองด้วย
ดิฉันได้พบคนๆหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนฉันไม่กล้าแนะนำคำสอนเรยูไก แต่ตอนนี้ฉันสามารถแนะนำเขาเป็นสมาชิกได้สำเร็จ ลูกสมาชิกคนนี้บอกกับดิฉันว่าเขาดีใจมากที่ได้ปฏิบัติเรยูไกครั้งแรกซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ประเทศของเราประกาศ Lock Down ด้วย ลูกสมาชิกมาพบดิฉันทันทีเพื่อรับหนังสือสวดมนต์และป้ายบูชาบรรพบุรุษ(โซไคเมียว) หลังจากนั้นดิฉันไม่มีโอกาสได้พบกับเขาเพราะมีประกาศ Lock Down ห้ามทุกคนออกนอกบ้าน แต่เขาได้โทรศัพท์มาและพูดกับดิฉันว่าเขามีความสุขมากที่ได้รับคำแนะนำที่ดี ให้เคารพนับถือบรรพบุรุษ และตั้งแต่เขาปฏิบัติมาทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีขึ้น ดิฉันได้เล่าประสบการณ์นี้ให้ลูกสมาชิกฟัง ทุกคนประทับใจและได้รับแรงกระตุ้นให้แก่พวกเขาด้วย
มีการจัดประชุมอนุกรรมการ จัดประชุมกิจกรรมต่างๆ จัดโฮจ้า พวกเราจัดประชุมบ่อยๆโดยใช้โทรศัพท์ในการสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ท ในตอนแรกพวกเราคิดว่าจะไม่มีใครสนใจเข้าร่วม แต่เราก็เปลี่ยนใจโดยตั้งใจชักชวนสมาชิก คนที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก และมีสมาชิกที่เข้าร่วมโฮจ้าเป็นครั้งแรกด้วย โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 40 คน ตั้งแต่จัดประชุมแบบนี้ลูกสมาชิกของดิฉัน 6 คน ได้มาขอบคุณที่ทำให้พวกเขามีความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น พวกเราได้โทรศัพท์คุยกันทุกวัน ทุกๆเช้าเราจัดประชุมกัน 10-15 คน ก็จะมีคำถามเกี่ยวกับเรยูไก ปัญหาอุปสรรคต่างๆ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน การที่พวกเราทำแบบนี้บ่อยขึ้นทำให้สมาชิกใหม่มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และสมาชิกที่ปฏิบัติมานานแล้วก็ได้กระตุ้นตัวเองและกลับมามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง มีลูกสมาชิกคนหนึ่งได้พิจารณาตัวเองทำให้เขามีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านที่ดีขึ้น สมาชิกอีกคนหนึ่งก็เล่าว่าครอบครัวของเขาก็มีความสัมพันธ์ดีขึ้นมาก ทุกคนพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
นอกจากโฮจ้านี้มีการประชุมสำหรับผู้นำ มีการแชร์ประสบการณ์ การแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยกัน ดิฉันขอเล่าประสบการณ์ของลูกสมาชิกคนหนึ่งเธอชื่อว่า นางโจเอล อายุ 75 ปี มีคุณสมบัติเป็นผู้นำด้วย โจเอลมีความสุขมากๆจากการปฏิบัติเรยูไก เสียงพูดทางโทรศัพท์ของเขาเหมือนคนที่มีอายุ 17 ปี โจเอลได้พิจารณาตัวเอง แก้ปัญหา สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เขาดูแลเอาใจใส่สามีมากขึ้น เมื่อดิฉันเห็นโจเอลเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ฉันดีใจมากๆที่ลูกสมาชิกมีความสุข โจเอลพูดกับฉันว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าสถานการณ์ Lock Down อย่างนี้จะทำให้พวกเราได้รับประสบการณ์ที่ดีมากมาย
ปัจจุบัน ดิฉันเองมีความมั่นใจว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจคิดไปก่อนว่า ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ เพราะเรายังไม่ได้ลองทำ ขอให้ทุกคนมีความตั้งใจปฏิบัติก่อนเพราะการปฏิบัตินี้ทำให้เรามีโอกาสก้าวไปข้างหน้าได้สำเร็จและได้พบความสุข