ประสบการณ์ : คุณเบญจพร  เสนาะธรรม 

 คุณสมบัติ : จุนชิบุโจ 

 

ประสบการณ์ที่ 2

วันที่ 19 ธันวาคม 2564

           สวัสดีค่ะ ท่านสมาชิกเรยูไกทุกท่าน ดิฉัน นางเบญจพร เสนาะธรรม สมาชิกเรยูไก จ.ศรีสะเกษ จะมาเล่าประสบการณ์จากกิจกรรม จับคู่ปฏิบัติ ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นคณะบริหาร โดยให้คณะบริหารทุกท่านจับคู่ในการปฏิบัติเรยูไก กิจกรรมนี้ค่อนข้างใหม่สำหรับประเทศไทยน่ะค่ะ ฟังครั้งแรกก็มีความกังวลว่าเราจะทำได้ดีแค่ไหน คู่เราจะเป็นใคร แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร

ดิฉันได้จับคู่กับ คุณพี่ธีรวัฒน์ อุ่นสินมั่น สมาชิก กรุงเทพ เราสองคนค่อนข้างมีความแตกต่างกันมากหลายด้านค่ะ ทั้งในเรื่องเวลาว่าง การทำงาน รวมทั้งการดำเนินชีวิตต่างๆ แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกัน คือ ความตั้งใจในการปฏิบัติเรยูไก คู่เราตกลงกันในเรื่องเป้าหมายว่า เราจะตั้งใจถึงแม้ว่าเป้าหมายที่วางไว้ของทั้งสองคนจะแตกต่างกันบ้าง แต่เราจะเป็นแรงกระตุ้นซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่แต่จะพยายามไปด้วยกัน

          เป้าหมายของดิฉันคือ  ตั้งใจสวดมนต์ในทุกเช้าก่อนไปทำงานที่บ้าน และหลังเลิกงานช่วงเย็น ตั้งใจสวดมนต์ที่บ้านคุณแม่ ชิบุโจ สคราญจิต สมคณะ และช่วงก่อนนอนจะสวดมนต์เล่มพระศรีอาริยเมตไตรย และนอกจากนั้นจะพยายามติดต่อลูกสมาชิก พูดคุยรวมถึงการทำบุญค่าสมาชิกและอยากให้มีลูกสมาชิกตั้งโซไคเมียวเพิ่มขึ้น

            จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็มีบางวันที่ทำได้และไม่ได้ แต่ดิฉันก็ตั้งใจว่าจะทำให้เต็มที่ดีที่สุด แม้ว่าในช่วงการปฏิบัติจะมีอุปสรรคเข้ามาเรื่อยๆเหมือนทดสอบตัวดิฉันเสมอ ในที่ทำงานลูกน้องสายตรงป่วยกระทันหันดิฉันต้องเข้าช่วยแก้ไขทั้งเรื่องงาน สุขภาพเค้าและครอบครัว และตอนนี้สถานการณ์ก็ค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดีและลูกน้องกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติพอหมดปัญหานี้ก็มีปัญหาสุขภาพตามมาซึ่งตอนนี้รอฟังผลสรุปจากแพทย์ประจำตัว ซึ่งตัวดิฉันรอผลอย่างมีสติ พร้อมเผชิญความจริง อย่างไม่จำนน ไม่ยอมแพ้ สิ่งที่ดิฉันเห็นได้จากตัวเองว่าเราปฏิบัติเรยูไก อย่างตั้งใจ ผลที่ได้คือ เราได้เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นภรรยาที่ดีของสามี เป็นน้องที่ดีของพี่ เป็นพี่ที่ดีของน้อง เป็นลูกน้องที่ดีของเจ้านาย เป็นเจ้านายที่ดีของลูกน้องและเป็นคนดีของสังคม สุดท้ายดิฉันคิดว่าถ้าเราตั้งใจปฏิบัติและมีแรงกระตุ้นจากรอบข้างเมื่อเราท้อถอย จะส่งผลดีต่อเราแม้เพียงจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในวันนี้ อาจเป็นเรื่องใหญ่โตในอนาคตได้ อยากให้ทุกคนตั้งใจและดิฉันพร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านเสมอ..ขอบคุณค่ะ

 

ประสบการณ์ที่ 1

            สวัสดีค่ะดิฉันนางเบญจพร เสนาะธรรม เป็นสมาชิกเรยูไกมาตั้งแต่ปี 2536 ตอนนี้มีคุณสมบัติจุนชิบุโจค่ะ สำหรับประสบการณ์ที่อยากจะเล่าให้สมาชิกเรยูไกฟังในวันนี้ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวดิฉันเองค่ะ ประมาณเดือนตุลาคม ปี 2560 ทางเรยูไกเราได้จัดงานสัมมนาที่ จ.นครราชสีมา ในช่วงที่กำลังสวดมนต์กันอยู่ลูกประคำของดิฉันได้ขาดออกจากกัน ตอนนั้นตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ไปสอบถามชิบุโจว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ชิบุโจก็ได้ปลอบใจว่าน่าจะมีอะไรที่บรรพบุรุษจะมาเตือนตัวเราให้ระวังสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ให้เราตั้งใจสวดมนต์ และปฏิบัติให้ดีที่สุด เผื่อว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นให้เราพร้อมรับ แล้วเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านไป แต่ก็ยังค้างคาใจดิฉันอยู่มาตลอด

            จนกระทั่งช่วงต้นปี 2561 ดิฉันผิดสังเกตกับตัวเองว่ามีก้อนอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าอกด้านขวา ก็ได้เฝ้าสังเกตตัวเองเรื่อยๆ และช่วงนั้นคุณพ่อก็เริ่มป่วยทรุดหนักลง ทำให้ดิฉันเองก็ลืมเกี่ยวกับตัวเราไป จนประมาณ มีนาคม ปี 2561 รู้สึกได้ว่าเจ้าก้อนนี้ไม่น่าจะปกติเพราะมันโตขึ้นจึงได้เข้าพบคุณหมอรับการตรวจเบื้องต้นเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นอะไร จนทราบผลมาว่า ดิฉันเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 วินาทีแรกที่รับรู้ตกใจมากค่ะ ช่วงออกจากห้องมานั่งรอด้านนอกก็ได้มองไปรอบๆ ทำให้เรียกสติกลับมาคิดได้ว่าคนมากมายที่ป่วย คนมากมายที่สู้ และเราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ และอีกอย่างที่สำคัญเชื่อว่าบรรพบุรุษท่านไม่ทอดทิ้งเราแน่นอน

            หลังจากนั้นก็เดินหน้าทำการรักษาค่ะ ทั้งการผ่าตัดเต้านม ให้ยาเคมีบำบัด และรับการฉายแสงจนครบแล้วค่ะ ตอนนี้ที่เหลือก็แค่ให้ยามุ่งเป้าอีก 17 เข็ม ซึ่งก็ใกล้ครบแล้วค่ะ และดิฉันมีความตั้งใจเสมอว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา หากว่าเมื่อไรที่เราพบเจอ ใครที่หมดกำลังใจ หมดแรงจะสู้ต่อเราจะช่วยเต็มที่

            มีอีกเหตุการณ์ที่อยู่ในช่วงที่ให้ยาที่โรงพยาบาล ได้สังเกตเห็นผู้ป่วยท่านหนึ่งเศร้ามาก เราเลยตั้งใจเข้าไปพูดคุยด้วย พบว่าพี่เขาเป็นมะเร็งเต้านม และต้องให้เคมีบำบัดแต่เขากลัวมาก เขามองทุกอย่างในมุมลบไปหมดว่าทำไมเขาต้องเป็น ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ดิฉันเลยเข้าไปคุยเล่าชีวิตเราให้ฟัง สร้างกำลังใจให้เขา ทุกครั้งที่มาให้ยา และเจอกันก็จะเข้าไปทักทายกันเสมอ จนล่าสุดพี่คนนี้ได้รับยาครบแล้ว วันที่ครบยาเขาเข้ามากอด ขอบคุณทุกอย่างที่เรามอบให้ ทำให้เขามีสติ กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เหตุการณ์นี้เป็นอะไรที่ดีใจ และภูมิใจมาก

            อยากบอกกับทุกคนนะคะว่าเรามีกรรม มีทุกข์ติดตัวกันมาทุกคน อยู่ที่ตัวเราว่าเราจะผ่านไปได้อย่างไร สำหรับตัวดิฉันเองที่ผ่านมาได้คิดว่าเพราะ ได้รับทุกกำลังใจจากครอบครัว ครอบครัวเรยูไก คนที่รักเรา หวังดีกับเรา และคิดว่าดิฉันโชคดีมากที่ได้รู้จักเรยูไก ทำให้เราได้ปฏิบัติดีๆ ทำให้เราได้พัฒนาจิตใจ ทำให้เราได้มองโลกอย่างมีเหตุมีผล และช่วยให้ดิฉันมีทุกวันที่ดี และมีความสุขกับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต

เบญจพร  เสนาะธรรม

มูลนิธิเรยูไก (ประเทศไทย)
เลขที่ 23/1 ซอยราชวิถี2 ถนนราชวิถี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร : 02-246-5037 , 02-246-3204
โทรสาร : 02-644-4513
Website : reiyukaithailand.or.th