ประสบการณ์ : คุณนิธิพร สงสูงเนิน (เยาวชนนครราชสีมา)
คุณสมบัติ : โฮจ้าอิน
สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาว นิธิพร สงสูงเนิน กำลังศึกษาชั้นปีที่ 2 หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขา วิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ดิฉันเป็นสมาชิกของมูลนิธิเรยูไก ตั้งแต่ปี 2557 โดยการแนะนำจาก อาจารย์ ศรัยฉัตร ฉัตรปิลันธนา ซึ่งสมัครสมาชิกทั้งครอบครัว โดยแรกเริ่มการปฏิบัติของดิฉันยังเป็นไปด้วยความไม่เข้าใจ ปฏิบัติบ้าง ไม่ปฏิบัติบ้าง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปคนรอบข้าง เริ่มทักว่าดิฉันใจเย็นขึ้น จากเดิมที่เป็นคนอารมณ์ร้อนไม่มีใครอยากคบหา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี จึงทำให้ดิฉันสนใจที่จะปฏิบัติมากขึ้น และตั้งป้ายบรรพบุรุษในปี 2559 ซึ่งหลังจากตั้งป้ายบรรพบุรุษ ดิฉันและคุณแม่ก็ตั้งใจปฏิบัติเรื่อยมาโดยไม่ได้คาดหวังถึงผลที่จะได้รับ เพียงต้องการรำลึกถึงคุณพ่อ และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้นแต่แล้วครอบครัวของดิฉันก็เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ครอบครัวของดิฉันมีสมาชิก 3 คน มีคุณแม่ พี่ชาย และตัวดิฉันเอง พี่ชายของดิฉันเป็นคนหัวรั้น เชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อครอบครัว ไม่ยอมฟังใคร และมักจะหาเรื่องหนักใจมาให้แม่เสมอ จนคุณแม่ถอดใจคิดว่าคงเปลี่ยนอะไรเขาไม่ได้ แต่อย่างที่ได้บอกไว้ข้างต้น คือเขาได้เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อปีที่ผ่านมาเขามีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ชายไทยต้องบวชทดแทนบุญคุณ พี่ชายของดิฉันบวชให้คุณแม่ด้วยความตั้งใจ และบวชได้ถึง 15 วันที่วัดป่าแห่งหนึ่ง เขาตั้งใจปฏิบัติศึกษาตำราบทสวดมนต์ต่าง ๆ และเมื่อสึกแล้ว เขาก็เริ่มห่างจากกลุ่มเพื่อนที่ไม่ดี และสมัครเข้าทหารเกณฑ์ตามคำขอของแม่ เขาตั้งใจฝึกฝนร่างกาย มีวินัยในตนเอง เขาเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แม่มีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนตัวของดิฉันก็ค่อยๆ ประสบความสำเร็จในเรื่องงานที่ตั้งใจไว้ ในปีที่ผ่านมาดิฉันได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นถึง 3 สถาบัน คือ รางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ รางวัลเยาวชนดีเด่นกระทรวงศึกษาธิการ และ รางวัลเยาวชนดีเด่นสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเป็นที่ยอมรับของสังคมอย่างกว้างขวาง ครอบครัวของพวกเราได้เปลี่ยนจากความร้อนดุจไฟสุมเป็นครอบครัวที่มีแต่ความเย็นและสงบสุข และอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ในครอบครัวที่ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน คือพี่ชายของดิฉันได้สมัครสอบนายสิบทหารบก ซึ่งก่อนไปสอบดิฉันแนะนำให้เขาสวดมนต์ เพื่อรวบรวมสติ และสมาธิ ผลที่ได้คือเขาสอบผ่านข้อเขียน ยิ่งทำให้ความสุขในครอบครัวของพวกเราทวีคูณมากขึ้น
สำหรับดิฉันแล้วผลที่ได้จากการปฏิบัตินั้น ส่งผลต่อดิฉัน และคนในครอบครัวอย่างเห็นได้ชัด ดิฉันและครอบครัวยังคงตั้งใจจะปฏิบัติต่อไป เพื่ออุทิศส่วนกุศล รำลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ และเป็นการพัฒนาจิตใจของตนให้เข้มแข็ง มั่นคง เพื่อส่งผลดีต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคมต่อไป
นิธิพร สงสูงเนิน